โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ
เนื่องด้วยประเทศไทยของเราตอนนี้ยังคงมีฝนตกหนักในหลายพื้นที่ และทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมหลายแห่ง ในบางพื้นที่เกิดน้ำท่วมหนักไม่สามารถใช้รถใช้ถนนได้ แต่ในบางพื้นที่ผู้คนยังคงสามารถใช้รถสันจรไปมาได้ และสิ่งที่สำคัญคือ เราจะใช้และดูแลรถคู่ใจของเราอย่างไรให้ปลอดภัยในขณะที่มีภาวะน้ำท่วมแบบนี้ได้มาดูกันเลย
ผู้ขับขี่ควรตรวจสอบระบบสัญญาณไฟให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี หากโคมแก้วเปื้อนให้เช็ดทำความสะอาดเพื่อให้ความสว่างเพิ่มขึ้น รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์ใบปัดน้ำฝนให้สามารถปัดกวาดน้ำฝนได้สะอาด ไม่มีรอยฝ้าหรือรอยขูดขีดบนกระจก และเตรียมผ้าแห้งไว้เช็ดฝ้าที่ติดอยู่กระจกภายในรถ รวมถึงหมั่นเติมน้ำในกระปุกฉีดน้ำอยู่เสมอ
เลือกใช้ยางรถยนต์ที่มีดอกยางละเอียด เติมลมยางให้มีแรงดันลมมากกว่าปกติ 2-3 ปอนด์/ตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็ง ซึ่งจะช่วยให้ยางมีกำลังในการรีดน้ำดียิ่งขึ้น ตลอดจนตรวจสอบผ้าเบรกให้สามารถใช้งานได้ดีในสภาพถนนเปียกลื่น หากเบรกแล้วรถมีอาการปัดให้จัดการเปลี่ยนผ้าเบรกใหม่
ไฟหน้าช่วยเพิ่มทัศนวิสัยให้ทั้งตัวคุณ และผู้ขับขี่รถคันอื่นได้มองเห็นในสภาพแสงน้อย ไม่ควรใช้ไฟฉุกเฉิน ยกเว้นเมื่อจอดรถ และต้องการให้รถคันอื่นหลบเลี่ยง ถ้ารถมีไฟตัดหมอก ควรเปิดใช้งาน
เมื่อต้องขับขี่บนถนนเปีย-กลื่น ต้องแน่ใจว่าสามารถหยุดรถได้ในระยะที่มองเห็น การลดความเร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่ออาการรถลอยตัวหรือเหินน้ำ
การปิดแอร์จะทำให้พัดลมแอร์ทำงาน ซึ่งมันจะพัดน้ำที่อยู่บนถนนกระจายไปทั่วห้องเครื่องทำให้เครื่องยนต์ดับได้
เกียร์ธรรมดา ควรใช้ประมาณเกียร์ 2 ส่วนเกียร์ออโต้ก็ใช้เกียร์ L และขับขี่ด้วยความเร็วต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ โดยใช้ความเร็วสม่ำเสมอ เลี้ยงรอบให้นิ่งที่สุดประมาณ 1,500 รอบต่อนาที่
เพราะการเร่งเครื่องจะทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนจะทำงาน คลื่นน้ำที่ถูกดันไปข้างหน้าก็อาจทะลักกลับมายังห้องเครื่องได้
โดยเฉพาะเส้นทางที่มีรถสวน หากไม่ลดความเร็วจะทำให้เกิดคลื่นน้ำปะทะกัน ระหว่างรถของเราและรถที่วิ่งสวนมา อาจทำให้น้ำกระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้
ให้จอดทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้น้ำที่อาจค้างอยู่ในหม้อพักไอเสียระเหยออกให้หมด
สำหรับรถเกียร์ออโต้ ให้ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก ส่วนรถเกียร์ธรรมดา ให้ย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น
เป็นสิ่งแรกที่ควรทำ เพื่อตรวจสอบกับทางบริษัทประกันว่า กรมธรรม์ที่มีอยู่นั้นคุ้มครองกรณีนี้ด้วยหรือไม่ เนื่องจากประกันแต่ละชั้นก็มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมแตกต่างกันไป
หลังจากขับรถลุยน้ำท่วมจนมาถึงจุดหมายแล้ว ไม่ควรดับเครื่องยนต์ทันที เพราะอาจทำให้น้ำที่ค้างอยู่ที่ท่อไอเสียย้อนกลับเข้าไปได้ และความชื้นที่ยังมีอยู่อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดความเสียหายได้ ควรจะจอดรถทิ้งไว้สักครู่ เพื่อให้น้ำที่อาจตกค้างอยู่ในหม้อพักท่อไอเสียระเหยออกมาให้หมดเสียก่อน
หากพบว่าเครื่องยนต์มีอาการผิดปกติ เช่น กระตุก เร่งเครื่องไม่ขึ้น หรือเสียงดังกว่าปกติ ควรจะจอดรถแล้วตรวจสอบทันที โดยให้ดูก้านวัดระดับน้ำมันเครื่อง หากพบว่ามีสีขุ่นผิดปกติเหมือนกาแฟใส่นม แสดงว่ามีน้ำเข้าไปในเครื่องยนต์ จากนั้นให้ตรวจสอบกรองอากาศ หากน้ำเข้าทางนี้ กรองอากาศและท่อไอดีจะเปียก ควรจะนำรถยนต์ส่งอู่ซ่อมเพื่อให้ช่างตรวจสอบและทำการแก้ไขให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายหนักขึ้น
ให้สังเกตที่พรมปูพื้น หากพบว่าด้านใต้พรมมีน้ำแฉะ ให้รีบนำพรมออกตากแดด ควรดูดหรือเช็ดออกให้แห้งทันที ไม่ควรทิ้งให้น้ำขังอยู่ภายในรถ เปิดประตูรถทั้งสี่ด้านเพื่อระบายอากาศ ไล่ความชื้นในห้องโดยสาร โดยในรถยนต์บางรุ่น จะมีโมดูลควบคุมถุงลมนิรภัยอยู่ที่ใต้เบาะคนขับ ควรดูแลไม่ให้มีความชื้นด้วยเช่นกัน
ตรวจสอบภายในกล่องฟิวส์ว่ามีความเสียหายหรือไม่ หากมีความเสียหายที่ฟิวส์ใดก็ควรเปลี่ยนทันที โดยอ้างอิงจากที่ฝากล่องฟิวส์รถยนต์ และดูกล่องอีซียูหากพบว่าเปียกน้ำ ให้รีบเช็ดให้แห้ง รวมไปถึงตรวจสอบไฟต่าง ๆ ภายนอกรถ หากอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ ควรถอดขั้วต่อแบตเตอรี่ออก เพื่อให้ช่างได้ทำการตรวจสอบและประเมินความเสียหาย
ด้วยการเหยียบเบรกสัก 2-3 ครั้ง ก่อนที่จะขับรถต่อไป เพื่อช่วยให้ผ้าเบรกกับจานเบรกหรือดรัมเบรกอยู่ในสภาพปกติ โดยรถเกียร์ออโต้ ควรย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก ส่วนรถเกียร์ธรรมดา ควรย้ำคลัตช์ เพื่อป้องกันคลัตช์ลื่น และไม่ควรขับรถเร็วเกินไป เพื่อความปลอดภัย
เนื่องจากน้ำที่ท่วมรถยนต์อาจจะทำให้ระบบไฟภายในรถเกิดการลัดวงจรได้ ดังนั้นก่อนที่น้ำจะเข้ารถ และถูกน้ำท่วมจนไม่สามารถนำรถออกไปได้ ก็ควรที่จะถอดขั้วแบตออกให้หมด
หลังรถโดนน้ำท่วม ควรจะนำรถไปเข้าอู่หรือศูนย์บริการ เพื่อทำการเปลี่ยนของเหลวภายในเครื่องให้ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากน้ำที่เข้าไปสู่ระบบเครื่องยนต์ อาจจะทำให้ระบบเครื่องยนต์ต่าง ๆ เกิดความเสียหายได้
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ