ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

ดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ   อนุมัติง่าย อนุมัติง่าย   ได้วงเงินเต็ม ได้วงเงินเต็ม

อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

ความรู้เรื่องคลัทช์รถยนต์

คลัทช์ (CLUTCH) เป็นอุปกรณ์ส่วนควบอย่างหนึ่ง ที่รถทุกคันจะขาดไม่ได้ ถ้าไม่มีคลัทช์เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ ดังนั้นรถก็จะวิ่งไม่ได้ วันนี้ทีมงาน iLease ของเรามีความรู้เรื่องคลัทช์รถยนต์มาฝากเพื่อนๆ กัน

คลัทช์ คืออะไร ?

คลัทช์ (CLUTCH) เป็นอุปกรณ์ส่วนควบอย่างหนึ่ง ที่รถทุกคันจะขาดไม่ได้ ติดตั้งอยู่ระหว่างเครื่องยนต์กับระบบเกียร์ ทำหน้าที่ในการตัดต่อการถ่ายทอดกำลังงาน จากเครื่องยนต์ไปยังระบบเกียร์ ทำให้เราสามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ ในความเร็วต่างๆ ถ้าไม่มีคลัทช์ เราก็ไม่สามารถเปลี่ยนเกียร์ได้ ดังนั้นรถก็วิ่งไม่ได้

บางคนเข้าใจไปเองว่ารถเกียร์อัตโนมัตินั้น ไม่มีคลัทช์ ซึ่งจริงๆ แล้วรถทุกคันล้วนมีคลัทช์ ไม่ว่าจะเป็นเกียร์ธรรมดาหรือเกียร์อัตโนมัติก็ตาม หากพูดถึงคลัทช์รถยนต์แล้ว เมื่อไหร่ที่ต้องเจอกับปัญหารถ คลัทช์เสีย ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียว เพราะนอกจากคลัทช์จะทำให้รถไม่สามารถขับต่อไปได้แล้ว อาจจะยังทำให้ระบบเกียร์พังไปด้วย

ในรถเกียร์อัตโนมัติก็ต้องอาศัยคลัทช์เช่นกัน เราเรียกว่า คลัทช์แบบอัตโนมัติ (AUTOMATIC CLUTCHES) ทำงานโดยอาศัยความเร็วรอบเครื่องยนต์เป็นหลัก เมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนต์อยู่ในขณะเดินเบา แผนคลัทช์จะถูกเลื่อนออก และเมื่อความเร็วรอบของเครื่องยนต์สูงขึ้น แรงกดของคลัทช์จะกระทำกับแผ่นคลัทช์ ทำให้เกียร์เข้าได้โดยอัตโนมัติ

คลัทช์ ในรถยนต์เกียร์ธรรมดา มี 2 ประเภท

1. คลัทช์ที่ใช้สายสลิงควบคุมหรือดึง

ชุดคลัทช์แบบนี้จะอยู่ใกล้กับแป้นคลัทช์ ใช้แรงเหยียบคลัทช์มากจึงไม่เป็นที่นิยมในรถยนต์ที่ใช้งานทั่วไปบนท้องถนน

2. คลัทช์ชนิดที่ใช้ระบบไฮดรอลิก(Hydraulic)

ชุดคลัทช์จะอยู่ไกลจากแป้นเหยียบ จึงทำให้ใช้แรงเหยียบน้อยกว่าแบบแรก ระบบการทำงานคล้ายกับระบบเบรก ที่มีแม่ปั๊มเบรคกับตัวลูกปั๊มเบรค

วิธีใช้คลัทช์ ที่ถูกต้อง

1.อย่าแช่คลัทช์

เวลาที่เหยียบคลัทช์ ไม่ควรเหยียบแช่ค้างไว้แบบครึ่งๆ กลางๆ หรือที่เรียกกันว่า “เลี้ยงคลัทช์” ควรถอนเท้าออกให้สุดทุกครั้ง พฤติกรรมแบบนี้มักเกิดขึ้นในเมือง หรือในที่มีการจราจรแออัด

2.อย่าออกรถกระชากคลัทช์

การออกรถรุนแรง (ปล่อยคลัทช์เร็วเกินไป) นอกจากจะส่งผลให้คลัทช์สึกหรอเร็วแล้ว ยังทำให้ระบบเกียร์เกิดปัญหาตามไปด้วย ควรปล่อยคลัทช์ให้ถูกจังหวะ และสัมพันธ์กับคันเร่งทุกครั้งจะดีที่สุด

3.อย่าเหยียบคลัทช์โดยไม่จำเป็น

เราใช้คลัทช์ก็ต่อเมื่อ ต้องการที่จะเปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ต่างๆ เท่านั้น ดังนั้นใครที่ใช้คลัทช์บ่อยๆ โดยเกินความจำเป็น เช่น เวลาเบรค ไม่ว่าจะเร็วหรือช้า ก็ต้องเหยียบคลัทช์ไว้ก่อน พฤติกรรมแบบนี้ก็ควรเปลี่ยนเสีย

4.อย่าพักเท้าไว้ที่คลัทช์ ในรถรุ่นใหม่ ๆ

มักมีที่พักเท้ามาให้ หลายคนมักชอบพักเท้าไว้ที่คลัทช์ เพื่อจะเปลี่ยนเกียร์ได้สะดวก แต่พฤติกรรมแบบนี้ผิด เพราะน้ำหนักเพียงน้อยนิดอาจทำให้จานกดคลัทช์หนีห่างจากฟลายวีล จะทำให้คลัทช์สึกหรอเร็วกว่าปกติ

อาการบ่งบอกว่าคลัทช์มีปัญหา

1.คลัทช์ลื่น

เป็นสัญญานที่กำลังบอกว่าคลัทช์รถของเราใกล้หมด อาการของคลัทช์ลื่น คือ เครื่องยนต์ทำงานมีรอบเครื่องสูงขึ้นแต่ความเร็วรถยนต์ลดลงกว่าปกติ หรือรถไม่มีกำลังขึ้นทางชัน อาจเกิดจากการตั้งครัทช์ที่ไม่เหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์ เป็นอีกอย่างที่จะทำให้เกิดคลัทช์ลื่นได้ สิ่งที่ตามมาคือ ผ้าคลัทช์อาจด้าน หวีคลัทช์ และฟลายวิลเกิดรอยไหม้ได้ ปัญหาแบบนี้ ควรให้ช่างที่เชี่ยวชาญรื้อคลัทช์ออกมาเช็คว่าเสียหายจุดไหนกันแน่ และหากพบสาเหตุแล้ว ควรเปลี่ยนผ้าคลัทช์ และหวีคลัทช์ใหม่ เจียรฟลายวิล หรือหาชุดคลัทช์แต่งให้เหมาะสมกับกำลังเครื่องยนต์ เพื่อความปลอดภัยในการขับรถอย่างเร่งด่วน

2.คลัทช์สั่น

สังเกตได้จากเวลาที่ออกตัว แล้วรถมีอาการสั่น กระตุก เกิดจากความไม่เรียบสม่ำเสมอของผ้าคลัทช์ หวีคลัทช์ และฟลายวิล แนะนำให้เปลี่ยนคลัชใหม่ หรือเอาหวีคลัทช์ไปเจียรใหม่

3.คลัทช์รั่ว

วิธีซ่อมคลัทช์รถยนต์ที่มีปัญหาแบบนี้ คือ ต้องสังเกตได้ว่า ตามกระบอกคลัทช์บนหรือล่างจะมีการซึมของน้ำมันคลัทช์ ถ้าเช็คแล้วเห็นสายอ่อนคลัทช์มีรอยรั่ว หรือน้ำมันคลัทช์เริ่มลดลง อย่าเติมน้ำมันคลัทช์เพิ่ม แต่ให้เช็คหารอยรั่วก่อน และรีบแก้ไขให้เร็วที่สุด

4.คลัทช์แตก

สาเหตุเกิดจากการที่ขับรถรุนแรงก็คือ มักจะชอบเหยียบคลัทช์แรงๆ ทำให้เสี่ยงที่คลัทช์จะแตกได้ง่าย หรืออาจเกิดจากโครงผ้าคลัทช์ที่ไม่ดี ไม่เหมาะสมกับกำลังรถ หรืออาจเกิดจากสปริงจานคลัทช์เสีย ทำให้หดตัว และถ้าผ้าคลัทช์แตก จะทำให้รถไม่สามารถเข้าเกียร์ได้ ให้เปลี่ยนคลัทช์ใหม่ที่มีโครงผ้าที่ดีและเหมาะสมกับกำลังรถ

ขั้นตอนการตรวจเช็คคลัทช์เบื้องต้น

  1. ดึงตัวล็อคฝากระโปรงภายในรถออกก่อนเป็นอันดับแรก เปิดฝากระโปรงหน้าขึ้น แล้วตั้งไม้ค้ำฝากระโปรงให้แข็งแรง
  2. หากระปุกน้ำมันคลัทช์ โดยสังเกตจากกระปุกจะมีขนาดเล็กกว่าน้ำมันเบรค
  3. ตรวจเช็คน้ำมันคลัทช์ ต้องให้อยู่ในระดับ FULL เสมอ ถ้าน้ำมันคลัทช์อยู่ในระดับปกติแล้ว ให้สตาร์ทเครื่องยนต์
  4. เหยียบคันเร่งให้รอบเครื่องสูงประมาณ 4,000 รตน. ใส่เกียร์สูงที่สุดของรถ เช่น เกียร์ 5  ถอดคลัทช์พร้อมกับเหยียบคันเร่งให้สุด โดยต้องทำให้สัมพันธ์กัน
  5. ดูที่รอบเครื่องยนต์ของรถ ถ้าเครื่องดับทันทีแสดงว่าคลัทช์ยังดีอยู่ ถ้าเครื่องยนต์ยังติดอยู่ แสดงว่าคลัทช์ไม่ดีแล้ว ควรเปลี่ยนใหม่
  6. ปลดเกียร์ 5 ให้อยู่ในตำแหน่งเกียร์ว่าง แล้วดับเครื่องยนต์ ปิดฝากระโปรงหน้า ด้วยวิธียกแล้วปล่อยให้สนิท

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน

ดอกเบี้ยต่ำ ดอกเบี้ยต่ำ   อนุมัติง่าย อนุมัติง่าย   ได้วงเงินเต็ม ได้วงเงินเต็ม

อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ

ลงทะเบียน สินเชื่อรถแลกเงิน