โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เป็นอย่างไร ? เราควรตรวจเช็คเองหรือไปตรวจเช็คที่ไหน ?
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้รถของคุณอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ซึ่งกรณีที่เป็นรถยนต์อายุเกิน 7 ปี การตรวจเช็คสภาพรถยนต์เป็นเรื่องบังคับที่ต้องปฏิบัติก่อน ต่อ พ.ร.บ ซึ่งหลายคนอาจสงสัยว่าควรตรวจเช็คเองหรือไปที่ศูนย์บริการ วันนี้เราจะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ว่ามีอะไรควรรู้ และควรเลือกตรวจเช็คด้วยตัวเองหรือใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญดีกว่า
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ คืออะไร ?
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ คือการตรวจสอบระบบและชิ้นส่วนต่างๆ ของรถให้มั่นใจว่ายังอยู่ในสภาพดี สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นด้วยตัวเอง หรือการนำรถเข้าตรวจเช็คกับช่างมืออาชีพ ณ ศูนย์บริการ ซึ่งกรณีที่ต้องการตรวจเช็คสภาพรถยนต์เพื่อต่อ พ.ร.บ.สำหรับรถที่อายุเกิน 7 ปี จะต้องตรวจเช็คในที่ ที่กำหนด หรือศูนย์บริการที่ออกใบรับรองได้เท่านั้น
รายการที่ควรตรวจเช็คสภาพรถยนต์เป็นประจำ
สำหรับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์เพื่อให้รถยนต์มีประสิทธิภาพที่ดีและลดโอกาสเกิดปัญหา และเตรียมความพร้อมก่อนเดินทางไกลควรมีการตรวจเช็คในส่วนสำคัญดังต่อไปนี้
1. เช็คระดับน้ำมันเครื่อง
น้ำมันเครื่องช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ ควรตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่องเป็นประจำ หากพบว่าระดับต่ำกว่ามาตรฐาน ควรเติมหรือเปลี่ยนใหม่ตามระยะที่กำหนด
2. ตรวจสอบระบบเบรก
เบรกเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้ขับขี่ปลอดภัย ควรตรวจสอบผ้าเบรกและน้ำมันเบรกว่ามีปริมาณเพียงพอหรือไม่ และมีเสียงผิดปกติขณะเบรกหรือเปล่า
3. ตรวจลมยางและดอกยาง
ยางที่มีแรงดันลมเหมาะสมจะช่วยให้รถวิ่งได้อย่างมั่นคง ลดการสึกหรอของยาง นอกจากนี้ควรเช็คสภาพดอกยางว่าไม่สึกเกินไป เพื่อป้องกันการลื่นไถล
4. ตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำ
ระบบระบายความร้อนเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องยนต์ หากระดับน้ำในหม้อน้ำต่ำเกินไป อาจทำให้เครื่องยนต์ร้อนจัดและเสียหาย
5. เช็คแบตเตอรี่
ควรตรวจสอบขั้วแบตเตอรี่ว่ามีคราบสกปรกหรือขี้เกลือหรือไม่ และเช็คกำลังไฟว่ามีความเสถียรดีพอหรือไม่
6. ตรวจเช็คระบบไฟส่องสว่าง
ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟเลี้ยว และไฟเบรก ควรอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน เพื่อความปลอดภัยทั้งตัวผู้ใช้รถและผู้ใช้ถนน คนอื่นๆ
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์เองหรือไปที่ศูนย์บริการดี?
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์เพื่อเตรียมความพร้อมในการเดินทาง สามารถเลือกตรวจได้ทั้งด้วยตัวเอง และการเข้าอู่หรือศูนย์บริการ ซึ่งมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกัน ดังนี้
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ด้วยตัวเองดีอย่างไร?
ข้อเสีย : หากไม่มีความรู้เพียงพอ อาจมองข้ามปัญหาสำคัญไปได้
ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ที่ศูนย์บริการดีอย่างไร?
ข้อเสีย: อาจมีค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น และต้องใช้เวลาเดินทางไปยังศูนย์บริการ กรณีที่ต้องเปลี่ยนอะไหล่อาจต้องทิ้งรถไว้หลายวัน
ตรวจเช็คสภาพเองไม่ได้ ตรวจเช็คสภาพรถยนต์ที่ไหนดี ?
สำหรับคนที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการตรวจเช็คสภาพรถยนต์ด้วยตัวเอง และต้องการตรวจเช็คแบบละเอียด สามารถเลือกใช้บริการจากสถานที่ต่อไปนี้
การตรวจเช็คสภาพรถยนต์ เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยและยืดอายุการใช้งานรถยนต์ให้ยาวนานขึ้น หากเป็นการตรวจสอบเบื้องต้น เช่น น้ำมันเครื่อง ลมยาง หรือไฟส่องสว่าง สามารถทำเองได้ แต่หากเป็นระบบที่ซับซ้อน ควรนำรถเข้าศูนย์บริการหรืออู่ซ่อมรถที่มีความเชี่ยวชาญ เพื่อป้องกันปัญหาใหญ่ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ส่วนคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว แต่ช่วงนี้ประสบภาะสภาพคล่องทางการเงินฝืดเคือง “สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกตัวช่วยดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับคุณได้ อีกทั้งสินเชื่อรถแลกเงินจาก Ilease ยังอนุมัติเร็วทันใจ ใช้เวลาไม่นาน พร้อมดอกเบี้ยต่ำที่คุ้มค่าต่อการตัดสินใจ
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ