“แบตเตอรี่แบบแห้ง” กับ “แบตเตอรี่แบบน้ำ” คืออะไร และมีความแตกต่างกันอย่างไร ?

แบตเตอรี่แบบน้ำ กับ แบตเตอรี่แบบแห้ง คืออะไร มีความแตกต่างกันหรือไม่?

แบตเตอรี่ เป็นส่วนประกอบที่สำคัญกับรถยนต์เป็นอย่างมาก เพราะคอยใช้ในการส่งพลังงานให้กับระบบต่างๆ ของรถยนต์ จึงเป็นอีกส่วนที่คนมีรถต้องรู้และให้ความสำคัญ แต่ด้วยปัจจุบันแบตเตอรี่ที่ใช้กับรถยนต์นั้นมี 2 แบบด้วยกัน คือ แบตเตอรี่แบบแห้ง และ แบตเตอรี่แบบน้ำ ซึ่งทั้งสองอย่างนี้จะมีความแตกต่างกันอย่างไร วันนี้ Ilease มีคำตอบมาบอกกัน

แบตเตอรี่แบบน้ำ คืออะไร?

“แบตเตอรี่แบบน้ำ” คือ แบตเตอรี่ที่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น ซึ่งผู้ขับขี่ต้องคอยดูแลตรวจเช็กอยู่เป็นประจำ เพราะต้องคอยดูว่าแบตเตอรี่นั้นมีสภาพที่พร้อมใช้อยู่ใหม่ ด้วยการเติมน้ำกลั่นอยู่เสมอ ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่แบบน้ำนั้นแห้ง และต้องคอยระวังไม่ให้แบตเตอรี่มีความเสียหายจนทำให้เกิดรอยรั่ว อันอาจเป็นอันตรายต่อรถยนต์เราได้ โดยแบตเตอรี่แบบน้ำ เหมาะกับคนที่สามารถดูแลตรวจเช็ดสภาพรถยนต์ด้วยตัวเองเบื้องต้นได้ เนื่องจากต้องคอยตรวจสภาพและเติมน้ำกลั่นทุกเดือน หรือทุก 15 วัน สำหรับกรณีที่ต้องใช้งานรถยนต์เป็นประจำ

แต่ข้อดีคือแบตเตอรี่แบบน้ำนั้นคือมีราคาถูกกว่าแบตเตอรี่แบบแห้ง

แบตเตอรี่แบบแห้ง คืออะไร?

“แบตเตอรี่แบบแห้ง” เป็นแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน เนื่องจากเป็นแบตเตอรี่ที่ไม่ต้องคอยดูแลหรือตรวจเช็กสภาพเหมือนแบตเตอรี่แบบน้ำที่ต้องคอยเติมน้ำกลั่น ทำให้สามารถใช้งานรถยนต์ได้ตลอดอายุ การใช้งานของแบตเตอรี่ ซึ่งแบตเตอรี่แบบแห้งนั้นจะมาพร้อมกับพลังงานที่สามารถยกเปลี่ยนใส่และใช้ได้ทันที โดยส่วนใหญ่แล้วแบตประเภทนี้จะมีอายุการใช้งานที่ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานรถยนต์ของแต่ละคนและแบตเตอรี่แต่ละรุ่นด้วย

ข้อดีของแบตแบบแห้ง คือ ไม่ต้องคอยดูแล ไม่ต้องกังวลเรื่องการเติมน้ำกลั่น เหมาะกับมือใหม่หัดขับและคนที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันแรก แต่ข้อเสียของแบตเตอรี่แบบแห้งคือเรื่องของราคาที่สูงกว่าแบบน้ำ

สรุปความแตกต่างของแบตเตอรี่แบบแห้ง และ แบตเตอรี่แบบน้ำ

สำหรับความแตกต่างของแบตเตอรี่ทั้งสองแบบนี้ สิ่งที่เห็นได้ชัด ก็คือ เรื่องของการใช้งานและการดูแลรักษา ที่แบตเตอรี่แบบน้ำนั้นต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอด้วยการเช็กปริมาณน้ำกลั่นในแบต หรือถ้าให้ดีต้องหมั่นเติมน้ำกลั่นทุกๆ 1 เดือน ไม่ควรปล่อยให้น้ำแห้ง

ส่วนแบตเตอรี่แบบแห้งนั้นการดูแลรักษาที่สำคัญมีเพียงแค่เรื่องเดียว คือไม่ปล่อยให้เกิดการอุดตันที่รูระบายของแบตเตอรี่ ส่วนการใช้งานนั้นสามารถใช้ได้ยาวๆ จนหมดอายุการใช้งานของแบตเลยทีเดียว

แล้วเราควรเลือกแบบไหนดี? ในส่วนนี้ขึ้นอยู่กับความถนัดและงบประมาณของแต่ละคน หากมีงบประมาณที่เพียงพอและไม่ต้องการตรวจเช็กแบตเอง ควรเลือก “แบตเตอรี่แบบแห้ง” ถือเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ส่วนคนที่หลงใหลในการตรวจเช็กสภาพ และมีความรู้เรื่องรถอยู่บ้าง การเลือก “แบตเตอรี่แบบน้ำ” ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมและช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ในระยะยาว

ทั้งนี้ สำหรับคนที่มีปัญหาสภาพคล่อง หรือประสบปัญหาภาวะเงินฝืด “สินเชื่อรถแลกเงิน” จาก Ilease เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดีๆ ที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้กับคุณได้ เพราะสินเชื่อรถแลกเงินจาก Ilease มาพร้อมข้อเสนอที่คุ้มค่า ด้วยอัตราดอกเบี้ยต่ำ ใช้เวลาพิจารณาน้อย อนุมัติได้เร็วทันใจ ให้คุณสบายใจในยามจำเป็น