รถสีด้านดูแลยากไหม ดูแลอย่างไร

การดูแลสีรถเป็นเรื่องที่หลาย ๆ คนให้ความใส่ใจไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ และคงปฏิเสธไม่ได้ว่า สิ่งที่ช่วยดึงดูดสายตาของรถยนต์เรานั้นคือสีที่อยู่บนตัวถัง ซึ่งมีการคิดค้นเฉดสี รวมถึงเพิ่มเทคนิค หรือรูปแบบใหม่ ๆ ของสีที่ให้เอฟเฟกต์แปลกตาอยู่ตลอด ซึ่งวันนี้เรามีรถสีด้านมาให้ทุกคนได้รู้จัก

รถสีด้าน คืออะไร?

รถสีด้าน หรือที่เรียกว่า รถสีแมท (MATT) เป็นสีรถยนต์มีความโดดเด่นในสไตส์ที่ดูดิบ ๆ ด้าน ๆ ด้วยความที่เป็นสีรถที่ไม่สะท้อนแสงทำให้ดูไม่หรูหรา และทำให้รถดูเก่าจากความเป็นจริง แต่เดิมรถสีด้านได้รับความนิยมในกลุ่มพาหนะทางทหาร จนกลายเป็นกระแสในกลุ่มรถหรูราคาแพง เนื่องจากรถสีด้านจะมีความโดดเด่น และแตกต่างจากสีรถทั่วไป อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการทำสีที่สูงกว่าการทำสีรถทั่วไป สีที่ทำออกมาแล้วไม่ทำให้รถดูเก่าแถมยังดูหรูหราอีกนั่นก็คือ สีดำด้าน และสีแดงด้าน นั่นเอง

รถสีด้าน ดูแลอย่างไร?

สีด้านเป็นสีที่ต้องมีการดูแลรักษาเป็นพิเศษกว่าสีประเภทอื่น เรามีวิธีดูแลรถสีด้านให้ดูใหม่อยู่เสมอ ดังนี้

1. ควรจอดรถในที่ร่ม

การเลือกหาสถานที่จอดรถเป็นสิ่งที่ควรทำ(ถ้าทำได้) เพราะไม่ว่าจะสีด้านหรือสีแบบขัดเงา การจอดกลางแดดร้อน ๆ ก็ทำให้สีรถซีดจางได้ ดังนั้น ควรจอดรถให้พ้นแสงแดดจ้า ส่วนเวลาตอนกลางคืนก็ต้องหาสถานที่จอดที่มีหลังคาเพื่อป้องกันไม่ให้โดนน้ำค้าง เพราะน้ำค้างก็เป็นอีกหนึ่งศัตรูตัวฉกาจ ที่จะทำให้สีรถเกิดรอยด่างได้

2. ควรล้างรถสัปดาห์ละครั้ง

ควรที่จะล้างรถสัปดาห์ละครั้งหรือเมื่อสีเริ่มสกปรก เพราะสีรถเช่นนี้ เวลาเลอะอะไรสักอย่างไม่ว่าจะเป็นคราบสกปรกจากการขับขี่ รวมไปถึงฝุ่นเกาะจากการจอดไว้นาน ๆ คราบรอยเหล่านี้จะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนมากกว่าสีในแบบปกติ โดยเฉพาะหน้าฝน เม็ดฝนจะรวมเอาสิ่งสกปรกมาเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อแห้งจะเกิดคราบทำให้ตัวรถดูโทรมเร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งยังกระตุ้นให้รถเกิดสนิมได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นคราบขี้นกหรือยางจากต้นไม้ที่มีสภาพความเป็นกรดสูง แล้วปล่อยให้เกาะกับสีรถนานเกินไป คราบจะยิ่งฝังลึกล้างหรือขัดออกยาก เพราะฉะนั้นควรล้างออกทันทีที่เห็นคราบเหล่านี้

3. ล้างรถด้วยมือ ไม่ควรเข้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติ

การล้างรถด้วยมือ ถือเป็นการทะนุถนอมสีบนตัวรถได้เป็นอย่างดีที่สุด เพราะถ้านำรถเข้าเครื่องล้างรถอัตโนมัติ ถึงแม้จะสะดวกรวดเร็วแต่ก็อาจทิ้งริ้วรอยได้ ซึ่งอาจเกิดจากขนแปรงที่ผ่านการใช้งานมานาน ทำให้ขนแปรงนั้นชำรุด หรือไม่ได้ทำความสะอาดส่งผลทำให้ขนแปรงมีทราย ฝุ่น เกาะติดอยู่ ถ้าสิ่งเหล่านี้ที่เกาะขนแปรงเสียดสีกับตัวถังรถ ย่อมจะสร้างความเสียหายกับสีของตัวรถได้เสมอ

4. ผ้าไมโครไฟเบอร์ดีกว่า ไม่ต้องกังวล

รถสีด้านเป็นสีที่ต้องได้รับการดูแลมากกว่าปกติดังนั้น สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงขณะเช็ดหรือล้างรถ คือ แปรง ถุงมือ ผ้ายืด แต่ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ เพราะเนื้อผ้าเป็นใยสังเคราะห์ที่เล็กละเอียด พร้อมกับมีความนุ่ม และมีคุณสมบัติพิเศษในการดักจับสิ่งสปรกได้ดีกว่า ฉะนั้นแล้วก็ไม่จำเป็นต้องออกแรงในการเช็ดถูมาก ทำให้ไม่เกิดริ้วรอย ซึ่งเป็นผลดีต่อพื้นผิวสีลักษณะนี้

5. ถ้าผิวรถยังร้อน รอสักนิดค่อยล้าง

ไม่ควรล้างรถสีด้านตอนที่พื้นผิวตัวถังยังร้อนมาก ๆ เช่น ตากแดดมาทั้งวัน หรือขณะเครื่องยนต์กำลังร้อนหลังจากการใช้รถใหม่ ๆ ควรรอให้ตัวรถเย็นเสียก่อน และหลังจากล้างแล้วควรเช็ดให้แห้งด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แห้งเท่านั้น และอย่าปล่อยทิ้งให้แห้งเอง เพราะจะเกิดคราบคราบหยดน้ำ ซึ่งเมื่อเกิดแล้วคราบจะติดฝังลึกเช็ดทำความสะอาดออกได้ยาก

6. ห้ามลงแว็กซ์ที่ใช้กับรถปกติ

การขัดเคลือบสีมักจำเป็นสำหรับรถสีปกติ เพื่อความเงางามเหมือนใหม่อยู่เสมอ แต่สำหรับรถสีด้านการทำเช่นนั้นมีแต่ก่อให้เกิดความเสียหายโดย แว็กซ์ การขัดเงา น้ำยาปกปิดริ้วรอย ปากกาซ่อมสี เป็นของต้องห้ามสำหรับรถสีด้าน ถ้าอดใจไม่ไหวอยากจะดูแลสีรถให้ดูดี ต้องใช้น้ำยาเคลือบสีด้านแบบน้ำ แต่ต้องดูให้ดีว่าไม่มีสารเร่งความแวววาว

7. สิ่งสกปรกปลิวมาเกาะติดรถควรเช็ดออกทันที

ถ้ามีสิ่งสกปรกอย่างเช่น ซากแมลง ขี้นก ยางไม้ ต้องเช็ดล้างทำความสะอาดออกให้หมดโดยเร็วที่สุด แต่ว่าไม่ควรรีบเช็ดโดยใช้ผ้าเปียก ให้ล้างด้วยน้ำเปล่าก่อนแล้วค่อยใช้ผ้าสะอาด หรือ ฟองน้ำที่นุ่ม ๆ ที่ใช้สำหรับล้างรถโดยเฉพาะ นำไปชุบในน้ำที่ผสมน้ำยาล้างรถ เช็ดเอาฝุ่นออกให้หมด แนะนำให้ถูเบา ๆ เพราะถ้าถูแรงจะทำให้สีเป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย ๆ หลังจากนั้นล้างด้วยน้ำสะอาดตามอีกครั้ง

8. อย่าทำให้รถเกิดรอยขีดข่วนหรือหลุดร่อน

ถ้าหากรถเกิดการเฉี่ยวชนจนทำให้เกิดรอยขีดข่วน แนะนำให้รีบซ่อมในส่วนนี้โดยด่วน อย่าทิ้งไว้ให้สีหลุดร่อนอย่างเด็ดขาด เพราะถ้าสีหลุดร่อนโอกาสที่ตัวถังจะผุพังขยายใหญ่ไปเรื่อย ๆ มีมากขึ้นแน่นอน

9. ระมัดระวังการขึ้น-ลงรถ

ในการขึ้น-ลงจากรถนั้นต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ควรตรวจสอบพวกกระดุม หรือสิ่งที่เป็นโลหะบนร่างกายเรา เช่น กุญแจ กระดุม เครื่องประดับ รวมไปถึงสิ่งของต่าง ๆ ไม่ให้ไปโดนเนื้อสี เพราะจะทำให้เป็นรอยขูดขีด ซึ่งนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับสีตัวรถแบบไม่ตั้งใจแล้ว ยังสามารถสร้างความเสียให้กับเบาะที่นั่งได้ และไม่เพียงแต่ระวังไม่ให้เกิดกับรถสีด้านเท่านั้น รถปกติก็ต้องระมัดระวัง

10. เคลือบสีรถช่วยให้ดูใหม่เสมอ

การเคลือบสีบ่อย ๆ ถือเป็นการป้องกันที่ดีอย่างหนึ่ง ถ้าเป็นไปได้ควรเคลือบสีอย่างน้อย 1–2 ครั้งต่อเดือน และที่สำคัญ ในการเคลือบรถสีด้าน ควรต้องเลือกผลิตภัณฑ์สำหรับเคลือบรถสีด้านโดยเฉพาะเท่านั้น

ขอขอบคุณข้อมูลจาก : Kapook