เคล็ดไม่ลับขับขี่มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทาง

เมื่อต้องใช้รถ หรือต้องออกเดินทาง สิ่งที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือ ศึกษาเส้นทางที่เราจะเดินทางไป เตรียมรถ เตรียมร่างกายให้พร้อม และที่สำคัญคือเคล็ดไม่ลับสำหรับให้ทุกท่านขับขี่มั่นใจ ปลอดภัยทุกการเดินทางที่ทาง ILease ของเราจะนำมาฝากเพื่อน ๆ ในวันนี้นั่นเอง จะมีอะไรบ้างนั้นตามแอดมินมาทางนี้เลย

เตรียมเอกสารต่างๆให้พร้อม

ควรเตรียมเอกสารสำคัญเกี่ยวกับรถให้พร้อมเสมอ เช่น ใบขับขี่ สำเนากรมธรรม์ประกันรถยนต์ สำเนาทะเบียนรถ รวมถึงเบอร์โทรติดต่อในกรณีฉุกเฉิน

รัดเข็มขัดนิรภัย

คาดเข็มขัดนิรภัย เป็นสิ่งแรกเมื่อขึ้นรถสำหรับผู้โดยสารที่นั่งเบาะหน้า การคาดเข็มขัดนิรภัยอย่างถูกต้อง จะช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ และลดความเสี่ยงที่จะเกิดการบาดเจ็บปานกลางถึงรุนแรงได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น อย่าลืมเตือนเพือนร่วมทางทุกคนให้คาดเข็มขัดนิรภัย

ขับเร็วเสี่ยงอันตราย

การป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่ง่ายที่สุดคือ การขับขี่ภายใต้ความเร็วที่กฎหมายกำหนด (หรือต่ำกว่านั้นหากต้องขับขี่บนภถนนเปียก ทางแคบ หรือในสภาพอากาศแปรปรวน) ผู้ขับขี่วัยรุ่นอาจจะรู้สึกว่าความเร็วเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น แมีแนวโน้มที่จะขับเข้าโค้งหรือเร่งแซงด้วยความเร็วสูงซึ่งเสี่ยงต่ออันตราย จากข้อมูลขององค์กรอนามัยโลก การเร่งความเร็วขึ้น 1 กิโลเมตรต่อชั่วโมงสามารถเพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุรถชน และเกิดการบาดเจ็บสูงขึ้นถึง 3 เปอร์เซ็นต์ และเพิ่มถึง 4-5 เปอร์เซ็นต์ที่จะเกิดการชนที่เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้น ไม่ควรเสี่ยงอันตรายหรือเสี่ยงต่อการเสียค่าปรับเพียงเพื่อไปถึงที่หมายเร็วขึ้นเพียงเล็กน้อย

ไม่ขับรถจี้ท้ายคันหน้า

หลีกเลี่ยงการขับรถใกล้คันหน้ามากเกินไป หากเราขับรถด้วยความเร็วกว่ารถคันหน้า เราสามารถใช้เลนขวาที่ว่างอยู่เพื่อแซงและกลับเข้าสู่เลนเดิมอีกครั้งเมื่อแซงพ้นแล้ว วิธีนี้ช่วยให้เราเลี่ยงผู้ขับขี่ที่ขับรถเร็วกว่าได้ แต่หากเราที่เป็นฝ่ายขับเร็วเสียเอง อย่าลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่นด้วย ไม่ควรขับจี้ท้ายคันหน้าเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุขึ้นได้

ไม่เสี่ยง เลี่ยงอุบัติเหตุ

ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงหลุมและถนนลื่นด้วย ลดความเร็วลงเพื่อมองเห็นอุปสรรคและหลบหลีกได้ทัน รถยนต์ที่มีระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว(Electronic Stability Control – ESP)จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ เพราะESPจะใช้ระบบเซ็นเซอร์เพื่อรักษาเสถียรภาพในการขับขี่เมื่อเกิดการลื่นไถล ด้วยการสร้างแรงดันเบรกที่เหมาะสมในแต่ละล้อ และแรงบิดของเครื่องยนต์ลง

ชั่วโมงเร่งด่วน

การขับรถช้า ๆ บนถนนที่แน่นขนัดในชั่วโมงเร่งด่วนอาจทำให้หงุดหงิดได้ แต่อย่าลืมเว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้เหมาะสม เพื่อลดอุบัติเหตุเมื่อต้องการเบรกกะทันหัน โดยทั่วไปอัตราความเร็วทุก 10 กิโลเมตรต่อ 1 ชั่วโมง ควรเว้นระยะห่าง 5 เมตร ดังนั้นหากขับรถด้วยความเร็ว 50 กิโลเมตรต่อ 1 ชั่วโมง ควรเว้นระยะห่าง 2.5 เมตร ผู้ขับขี่ควรประเมินสถานการณ์ และอาจลดระยะห่างตามความเหมาะสม โดยคำนึงถึงสภาพการจราจรและพื้นผิวถนน

ADS คือเพื่อนร่วมทาง

ระบบเบรกป้องกันล้อล็อค ช่วยควบคุมไม่ให้รถไถลออกข้างทางเมื่อเบรกกะทันหัน โดยป้องกันล้อล็อคระหว่างการเบรก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทรงตัว โดยผู้ขับขี่สามารถควบคุมทิศทางของรถได้ในขณะที่เหยียบเบรกเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวาง

ลดสิ่งรบกวนสมาธิ

สิ่งรบกวน หมายถึงทุกอย่างที่ทำให้เราละสายตาจากถนน ไม่ว่าจะเป็นการจิบกาแฟในขณะขับรถ มองผู้โดยสารผ่านกระจกมองหลัง หรือส่งข้อความในขณะขับรถ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการเกิดอุบัติเหตุรถชนในหลายกรณีที่เกิดขึ้นตามท้องถนน การที่เราขับรถต้องมีสติ จดจ่ออยู่กับการขับรถของเราอยู่ตลอดเวลา

งดใช้โทรศัพท์

ไม่ใช้โทรศัพท์ระหว่างขับรถ หรือแม้กระทั่งตอนที่จอดรถติดไฟแดง เพราะตามกฎหมายแล้วไม่ว่าอย่างไรก็ยังถือว่าเราขับรถอยู่

ขับรถกลางคืน

การขับรถยามค่ำคืน เป็นความท้าทายอีกอย่างหนึ่ง ทั้งการกะระยะที่ยากขึ้น ทั้งประสิทธิภาพในการมองเห็นที่ลดลง แถมยังต้องเผชิญกับไฟหน้ารถคันอื่น ๆ ที่สวนเลนเราอีก ควรขับรถให้ช้าลงเพื่อเวลาประเมินสถานการณ์เมื่อเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้น

รู้จักรถของตนเอง

เมื่อเผชิญสถานการณ์คับขัน เปิดระบบสัญญาณเตือนภัย ดับเครื่องยนต์และเช็กว่าคุณและผู้โดยสารปลอดภัยดี ขั้นต่อไปควรตรวจพื้นที่โดยรอบว่าสามารถออกจากรถได้อย่างปลอดภัยหรือไม่ จึงเคลื่อนย้าย อย่าลืมแลกเปลี่ยนข้อมูลติดต่อหากมีคู่กรณี ที่สำคัญที่สุดคือ ตั้งสติ พร้อมช่วยเหลือ และคิดแก้ปัญหาอย่างรอบคอบ