โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ
สำหรับเกียร์ออโต้นั้นเป็นเกียร์ที่มักจะเห็นได้บ่อยในรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน ซึ่งเกียร์ที่ระบบจะทำหน้าที่เปลี่ยนตำแหน่งของเกียร์ให้เหมาะสมตามความเร็วและน้ำหนักบรรทุก ระบบเกียร์ออโต้เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนรถ ถ้าชุดเกียร์เสื่อมสภาพหรือมีปัญหา อาจต้องจ่ายเงินก้อนโตในการซ่อมหรือเปลี่ยนชุดเกียร์ใหม่ทั้งหมด เราจะยืดอายุการใช้งานของเกียร์ออโต้ได้อย่างไรบ้าง ที่นี่มีคำตอบ
1. ไม่คิกดาวน์บ่อยจนเกินไป
การคิกดาวน์ (Kickdown) คือ การเหยียบแป้นคันเร่งให้ลึกกว่าปกติเพื่อเพิ่มความเร็วอย่างเร่งด่วน มักใช้ในกรณีเร่งแซงหรือหลบหลีกสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งตำแหน่งเกียร์จะถูกปรับลงมา 1-2 จังหวะตามน้ำหนักเท้าที่กดลงไป แต่การคิกดาวน์บ่อย ๆ จะมีผลทำให้ชุดเกียร์สึกหรอเร็วกว่าปกติ เพราะชุดเกียร์ต้องรับแรงบิดที่เพิ่มขึ้นกะทันหันอยู่บ่อยครั้ง ทางที่ดีควรคิกดาวน์เมื่อจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น การขับขี่ปกติควรค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้นไปจะดีกว่า
2. จอดทางลาดใช้เบรกมือช่วย
การจอดรถบนทางลาดชัน คนส่วนใหญ่มักใช้วิธีใส่เกียร์ P เพื่อป้องกันรถไหลเพียงอย่างเดียว แต่ทางที่ดีควรใช้เบรกมือควบคู่กันไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้สลักเกียร์ต้องแบกรับน้ำหนักตัวรถมากจนเกินไป
ส่วนวิธีจอดรถบนทางลาดชันที่เหมาะสมนั้น หลังจากจอดรถเสร็จอย่าเพิ่งใส่เกียร์ P ทันที ระหว่างที่เหยียบแป้นเบรกอยู่ ให้ดึงเบรกมือขึ้นจนสุด ค่อย ๆ ปล่อยเท้าออกจากแป้นเบรกให้มั่นใจว่ารถไม่ไหล จากนั้นจึงค่อยผลักตำแหน่งเกียร์ไปยัง P วิธีนี้จะทำให้เบรกเป็นตัวรับภาระน้ำหนักรถแทน และหลังจากที่สตาร์ทรถเพื่อขับออกไปนั้น ให้ปลดเกียร์ออกจากตำแหน่งเกียร์ P ก่อน (จะใส่เกียร์ R N หรือ D ก็ตามแต่) แล้วจึงปลดเบรกมือ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยป้องกันความเสียหายกับชุดเกียร์ได้
3. ไม่ปล่อยเกียร์ว่างขณะรถวิ่ง
ใครที่คุ้นชินกับการขับรถเกียร์ธรรมดามาก่อน เมื่อมาขับเกียร์ออโต้แล้วล่ะก็ ห้ามใช้วิธีผลักไปเกียร์ว่างแล้วปล่อยให้รถไหลเวลาใกล้ถึงไฟแดงเด็ดขาด เพราะทันทีที่เข้าเกียร์ N จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการหล่อลื่น และทำให้เกียร์เกิดความเสียหายได้เร็วขึ้นนั่นเอง
4. เปลี่ยนเกียร์ให้สัมพันธ์กับความเร็ว
เกียร์ออโต้จะมีตำแหน่งเกียร์ให้ผู้ขับขี่สามารถปรับอัตราทดเองได้ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม + , – หรือตำแหน่ง 3, 2, L (แตกต่างกันไปตามรุ่นรถ) ซึ่งตำแหน่งเกียร์ D ปกติก็สามารถครอบคลุมการใช้งานในชีวิตประจำวันแล้ว ไม่ควรปรับเกียร์เป็นตำแหน่งอื่นบ่อย ๆ โดยไม่จำเป็น นอกเสียจากต้องการเร่งแซงหรือใช้แรงเบรกจากเครื่องยนต์
5. อย่าละเลยการเปลี่ยนน้ำมันเกียร์
น้ำมันเกียร์เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยหล่อลื่นและปกป้องชุดเกียร์ เมื่อใช้ไปนาน ๆ เข้า ก็จะเกิดความเสื่อมสภาพ อาจมีเศษตะกอนค้างอยู่ในอ่างน้ำมันเกียร์ ซึ่งเกิดจากการเสียดสีเป็นระยะเวลานาน ดังนั้น ควรเปลี่ยนทุก ๆ 6 เดือน หรือ ปีละ 2 ครั้ง หรืออยู่ที่ประมาณ 40,000 – 60,000 กิโลเมตร จะช่วยถนอมชุดเกียร์ไว้ได้ โดยวิธีสังเกตน้ำมันเกียร์ หากเริ่มมีสีน้ำตาลหรือสีดำ นั่นเป็นสัญญาณว่าถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์แล้ว ไม่ควรปล่อยให้น้ำมันเกียร์ที่ขุ่นค้างอยู่ในเครื่องยนต์เป็นเวลานานเกินไป จะทำให้ชุดเกียร์สึกหรอได้
6. นำรถเข้ารับบริการที่ศูนย์บริการตามกำหนด
เพื่อให้เกียร์และรถของเราได้รับการตรวจเช็กการทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยตรวจสอบความผิดปกติจากการใช้งานได้อย่างละเอียดกว่าการดูแลตามปกติ
หากทำตามวิธีที่เราแนะนำ เพียงเท่านี้เราก็สามารถยืดอายุดการใช้งานของเกียร์ออโต้ได้แล้ว
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ