โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
โทร:
+662 117 4645
อีเมล:
care@iLease.co.th
ที่อยู่:
เลขที่ 62 อาคารเดอะมิลเลนเนีย ทาวเวอร์
ชั้น 18 ห้อง 1801 ซอยหลังสวน
แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ
สำหรับคนที่สนใจและกำลังตัดสินใจซื้อรถมือสองอยู่ ก็อาจจะเคยได้ยินคำว่า รถเต็นท์ หรือ รถบ้าน กันมาแล้ว แต่สำหรับคนที่ไม่ค่อยมีความรู้เรื่องรถมือสอง หรือ ใครที่พึ่งซื้อรถมือสองเป็นคันแรกก็จะยังไม่เข้าใจศัพท์ 2 คำนี้เท่าไหร่ โดยศัพท์ 2 คำนี้ใช้เรียกนิยามประเภทของรถมือสอง วันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับรถมือสอง ทั้ง 2 ประเภทให้มากขึ้น ในหัวข้อ รถเต็นท์ vs รถบ้าน ต่างกันอย่างไร
รถเต็นท์ คือการซื้อขายผ่านคนกลาง ไม่ได้ซื้อกับเจ้าของโดยตรง และเป็นรูปแบบธุรกิจซื้อขายรถยนต์มือสองโดยเฉพาะ มีสถานที่ซื้อขายเป็นหลักแหล่ง มีรถมือสองให้เลือกหลายคันหลายรุ่น ในอดีตจะขายตามริมถนนมีเต็นท์ผ้าใบกางให้รถจอด จึงถูกเรียกกันว่า รถเต็นท์ หรือเต็นท์รถมือสอง แต่สมัยนี้อัพเกรดให้ดูดีขึ้นเป็นห้องแถวหรืออาคารพาณิชย์ แต่ก็ยังถูกเรียกเหมือนเดิม
รถบ้าน คือรถที่เจ้าของรถใช้ขับและนำมาขายเองโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง ซึ่งจะเป็นการซื้อขายโดยตรงกับเจ้าของรถ ในการตกลงซื้อขายนั้น ผู้ขายจะนัดดูรถกับผู้ซื้อตามสถานที่ต่าง ๆ อาจจะเป็นลานจอดรถในห้างหรือที่บ้านของผู้ขายเอง โดยส่วนใหญ่จะบอกขายเพื่อนคนรู้จัก นอกจากนี้ยังประกาศขายผ่านอินเตอร์เน็ตอย่างเว็บไซต์เกี่ยวกับรถยนต์ หรือโซเชียลมิเดียของตัวเองเพื่อให้คนที่ต้องการซื้อรถบ้าน สามารถค้นเจอได้อีกทาง
เราได้รวมเอาความแตกต่างของรถมือสองทั้งจาก รถบ้านที่เป็นเจ้าของขายเอง และ รถเต็นท์ที่จำหน่ายโดยผู้ประกอบการอิสระ แยกออกเป็น 7 ข้อ ให้ทุกคนได้อ่านง่าย ๆ เข้าใจชัดเจน และรู้ไว้เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจซื้อรถมือสอง
เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการดูแลรถเป็นสำคัญ สภาพของตัวรถ รถบ้านจะมีความได้เปรียบมากกว่า สามารถเช็คประวัติได้ชัดเจน แต่ปัจจุบัน รถเต็นท์ก็มีสภาพดีใกล้เคียงกัน ดังนั้นผู้ซื้อควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ
ตามกลไกทางธุรกิจ รถเต็นท์อาจมีราคาที่สูงกว่ารถบ้าน เพราะมีการบวกกำไรทางการตลาดเข้ามาเพิ่ม สำคัญที่สุดคือต้องพิจารณาที่สภาพของรถ และความพึงพอใจของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ
รถบ้านซึ่งเป็นรถที่เจ้าของขายเอง จะไม่มีโปรโมชั่น เพราะเป็นการขายทั่วไปที่ไม่ได้ทำเป็นอาชีพ การแข่งขันเป็นคนละแบบ แตกต่างจากรถเต็นท์ที่มีคู่แข่งทั้งทางตรงและอ้อม จึงมีโปรโมชั่นสนับสนุนการขายเยอะมาก ๆ เช่น ฟรีดาวน์ ช่วยผ่อน บัตรน้ำมัน ฯ ล ฯ
รถบ้านจะไม่มีการรับประกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ถ้ามีการเปลี่ยนมือหรือทำการโอนรถแล้วนับว่าจบการขายทันที แต่รถเต็นท์มักจะมีการรับประกัน และบริการหลังการขายให้กับลูกค้าพ่วงด้วย
สำหรับทางเลือกของลูกค้า รถบ้านที่เป็นเจ้าของขายเอง จะไม่มีรุ่นรถให้พิจารณา มีคันไหนก็ขายคันนั้น ในขณะที่รถเต็นท์ หรือเต็นท์รถ อาจจะมีรถคู่เทียบในเซกเมนท์เดียวกัน และอาจมีรุ่นย่อยให้เลือกเพิ่มเติมอีกด้วย ถ้าหากลูกค้าไม่ชอบรถรุ่นนี้ ก็สามารถดูรถรุ่นอื่นได้ตามต้องการ
สำหรับรถบ้าน ผู้ซื้อต้องดำเนินการเองทั้งหมด แต่ถ้าซื้อกับเต็นท์รถ ผู้ประกอบการดำเนินการให้ตั้งแต่ต้น พร้อมคำนวณให้จนอนุมัติ และส่งมอบรถ
รถเต็นท์จะมีการดีลกับไฟแนนซ์เป็นประจำ จึงมีระยะเวลาในการรับรถที่ไวกว่ารถบ้าน แต่ถ้าเป็นกรณีซื้อรถด้วยเงินสด ทั้งรถบ้านและรถเต็นท์ ก็สามารถรับรถได้ไวพอ ๆ กัน
ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ อาจทำให้คุณคิดว่า รถเต็นท์ อาจจะดีกว่า รถบ้าน แต่ในความเป็นจริงนั้น จุดเด่นหลัก ๆ ของการซื้อรถมือสอง มีเพียงแค่ 2 ข้อ คือ ราคาของรถและสภาพรถ ที่จะทำให้คุณต้องคิดทบทวนดู เพราะคุ้มค่ามากจริง ๆ
อนุมัติไว ให้วงเงินสูงสุด 100% ของราคาประเมินและเงื่อนไขของทางบริษัท อนุมัติไวรู้ผลภายใน 24 ชั่วโมง และรับเงินไวภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากทำการโอนทรัพย์ สามารถกู้ได้ทุกอาชีพ